ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่เค้าว่ายน้ำเป็นอยู่แล้ว จะต้องใช้ความพยามเพิ่มขึ้นอีกสักเท่าไหร่ที่จะเรียนดำน้ำ แต่สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นตั้งแต่แรกอย่างเราให้คูณ 2-3 ไปเลยค่ะ และนอกจากความพยายามแล้ว ก็ยังมีอะไรนู่นนี่นั่นบวกเข้ามาอีกเยอะแยะมากมาย คุณอยากรู้มั้ยล่ะ?
มา!! เราจะเล่าให้คุณฟัง…
เริ่มต้นการเรียนดำน้ำ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ “การนั่งดูวิดีโอ” ดูเพื่อศึกษาทฤษฎี ก็ราวๆ 3-4 ชั่วโมงได้ เอาจริงแค่ดูวิดีโอก็เหนื่อยละอะ ยาก ซับซ้อน อะไรไม่รู้เต็มไปหมด ดูต้องใช้สติเยอะ และก็ค่อนข้างอันตรายด้วยนะ ความรู้สึกตอนนั้นแบบ
“กูคิดอะไรของกูวะเนี่ย กูมาทำไรตรงนี้วะเนี่ย”
ละก็มาถึงวันลงสระจริง…
โคตรตื่นเต้นเลยค่ะ เอ้อ!! ลืมบอก นอกจากจะ ว่ายน้ำไม่เป็น แล้ว เรายังมีสรรพคุณอย่างอื่นด้วย อย่างแรก เป็นภูมิแพ้ค่ะ… ว่ายน้ำไม่เป็นและเป็นภูมิแพ้ ดีงามค่ะ มึงไปทำอย่างอื่นมั้ยละ –”
ต่อไปค่ะ ขี้กลัว!! กลัวแบบกลัวมาก มากแบบมากถึงมากที่สุด กลัวจมน้ำ กลัวหายใจไม่ออก คือขี้มโนค่ะ ดูหนังเยอะ จินตนาการเก่ง อื้มหืมแบบภาพมาเป็นฉากๆ ยังไม่ลงน้ำ แต่คิดว่าตัวเองจมดิ่งไปละค่ะ –”
เริ่มบทเรียนแรกกันด้วยการแนะนำให้รู้จักอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการดำน้ำกันก่อน เช่น Regulator เป็นอุปกรณ์สำหรับช่วยในการหายใจใต้น้ำ, Tank (ถังอากาศ), Weight Belt (เข็มขัดตะกั่ว), BCD (Buoyancy Control Device) คือ เสื้อชูชีพสำหรับนักดำน้ำ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนว่ายน้ำไม่เป็นอย่างเราอุ่นใจขึ้น(นิดนึง)
คุณครูแนะนำให้รู้จักอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการดำน้ำกันก่อน
ทีนี้ก็ถึงเวลาลงสระจริงจัง
เพื่อนทุกคนโดดลงสระโซนน้ำลึกไปหมดละค่ะ ว่ายน้ำกันสนุกสนาน
ส่วนตัวเรายืนอยู่ขอบสระ กลัวมากค่ะ หนังทุกเรื่องที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุทางน้ำโผล่ขึ้นมาโดยพร้อมเพียง –”
ยิ่งอยู่ที่ขอบสระแรงกดดันก็ยิ่งมากจากไหนไม่รู้ น้ำกระเพื่อมไปมาพร้อมกับเสียงเฮฮาสนุกสนาน แล้วเราล่ะ มัวทำอะไรอยู่
เอาวะ ฮึบ!!
นู่นเลยค่ะ โซนสระเด็กนู่นนนนเลยค่ะ (เศร้าแท้T^T) พอลงน้ำในโซนตื้นที่ขาถึง ระดับน้ำประมาณอก อาการก็เริ่มมาละ… แบบว่าแน่นหน้าอก หายใจไม่ทั่วท้อง กลัวหน่อย ๆ บอกไม่ถูก เริ่มไอเหมือนสำลัก(น้ำยังไม่ทันเข้าปากเลย) แอบไปหาข้อมูลมา เค้า(ใครไม่รู้-*-)บอกว่า ที่รู้สึกแน่น หายใจไม่ออกเพราะว่าเวลาลงไปในน้ำ จะมีแรงดันกระทำต่อตัวเรา(ตามกฎฟิสิกส์) อีกอย่างนึงที่น่าจะเกี่ยวก็คือ “จิตใจ” ของเราเองที่อาจจะรู้สึกกลัว ๆ เมื่ออยู่ในน้ำ แต่พอสักพักก็เริ่มชิน ผ่อนคลายมากขึ้น ก็ไม่เป็นแล้วล่ะค่ะ
เข้าสู่บทเรียนที่สอง
เริ่มต้นบทเรียนในน้ำด้วยการฝึกหายใจโดยใส่ Regulator(อุปกรณ์สำหรับช่วยในการหายใจที่ได้บอกไปข้างต้น) ทั้งหายใจด้วยปากและให้ลองหายใจออกทางจมูก (คือมันมีความยากที่พอเราเริ่มหายใจทางปากจนชิน แล้วต้องมาหายใจออกทางจมูกซึ่งเป็นทักษะที่ใช้ในการเคลีย Mark ที่จะกล่าวต่อไป) และการใช้ Regulator ใต้น้ำ ก็ทำได้นะ ไม่มีอาการสำลักใด ๆ รู้สึกภูมิใจเบาๆ (จริง ๆ มันง่ายแหละค่ะ แต่ก็ให้กำลังใจตัวเองไปหน่อย 555)
เข้าสู่บทเรียนที่สามกันต่อ…
การ Clear Mask เจ้าแว่นตาที่ใช้ใส่เวลาดำน้ำ เวลาใช้ไปสักพักมันจะเกิดฝ้าอากาศมาบดบังการมองเห็นได้ง่ายเนื่องจากเราอาจจะเผลอหายใจออกทางจมูก หรือเกิดกรณีน้ำเข้าหน้ากาก ที่นี้เราก็เลยต้องรู้วิธี Clear หรือทำความสะอาดมันขณะที่อยู่ใต้น้ำด้วยไง วิธีทำก็คือ ให้ใส่น้ำเข้าไปนิดนึง เงยหน้าขึ้น แล้วหายใจออกแรง ๆ โดยกดที่หน้ากากด้านบนเอาไว้ ครูฝึกบอกฉันตั้งแต่ตอนภาคทฤษฎีว่านี้คือสกิลปราบเซียน แล้วคนไม่ได้เป็นเซียนอย่างเราละ…
“ยังต้องถามหรอคะ –“”
มาทุกอาการ คือหายใจไม่ดี เกิดการสำลักน้ำ ที่สำคัญคือ จมูกตัน(มีน้ำมูกจากการเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว) ตอนนั้นรู้สึกเฟลสุดดด หงุดหงิดตัวเอง หายใจออกไม่ได้ตอนนี้อีก แล้วก็ว่ายน้ำไม่เป็นอยู่คนเดียว เลยต้องโดนแยกเรียนกับเพื่อนคนอื่น ๆ ด้วย(มีความกดดันไปอีก) คุณครูก็เลยให้ทำสกิลอื่นต่อเลย เพราะสกิล Clear Mask ทำไม่ได้แล้ว (T^T)
บทเรียนที่สี่
การใส่และถอด BCD และ Weight Belt ใต้น้ำ เป็นการฝึกให้เราสามารถถอดและใส่อุปกรณ์ที่ติดตัวเราได้อย่างถูกต้อง เผื่อไว้ตอนมีอุบัติเหตุฉุกเฉินอะไรที่ทำให้ต้องปลด Weight Belt ทิ้ง หรือต้องเปลี่ยน BCD ใต้น้ำ เป็นสกิลที่ไม่ยาก โอเคเลย ทำได้รอบเดียวผ่าน สวยๆ ค่ะ
มีกำลังใจขึ้นนิดนึง เข้าสู่บทเรียนที่ห้าต่อไป…
หนึ่งสถานการณ์ที่อันตรายและเกิดขึ้นได้คือการที่เราดำน้ำเพลินไปหน่อยแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ(และไม่เช็คอากาศในถังว่าเหลือกี่บาร์) รู้ตัวอีกที อากาศจะหมดจ้าาา(ถ้าเกิดเหตุการณ์จริงคงช็อก!) เราก็เลยต้องฝึกการขออากาศจากเพื่อน ทั้งการใช้ภาษามือเพื่อบอกว่าอากาศหมด(ในส่วนภาษามือจริง ๆ มีเยอะมาก ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมนะคะ) และการฝึกถอด Regulator ของตัวเองออกเพื่อเปลี่ยนไปยืม Octopus (อุปกรณ์สำหรับช่วยในการหายใจวิธีการใช้เหมือนกับ Regulator) ของเพื่อนมาใช้ตอนอยู่ใต้น้ำ ย้ำว่าใต้น้ำ!!! ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ก็เลยต้องฝึกกันหน่อย เริ่มต้นด้วยการเข้าไปสะกิดเพื่อนก่อน จากนั้นทำท่าปาดคอเพื่อบอกว่า “เธอๆ อากาศเค้าหมดล๊าวววว” แล้ววาดมือเป็นรูปสามเหลี่ยมเพื่อขอใช้อากาศจากเพื่อน จากนั้นเพื่อน(ที่ดี)จะส่ง Octopus ให้เรา ส่วนเราต้องถอด Regulator ออก เปลี่ยนไปใช้ Octopus ของเพื่อนแทน และไม่ลืมที่จะต้องเคลียอากาศออกจะได้ไม่เกิดอาการสำลักน้ำที่ค้างอยู่ใน Octopus นั้น สิ่งสำคัญมาก ๆ เลยของสกิลนี้คือ สติค่ะ!! สติตัวโตๆ คือถ้าพลาดแล้วพลาดเลย อาจเกิดการสำลักน้ำและตื่นกลัวไปใหญ่ซึ่งจะอันตรายมาก ๆ
เมื่อครูฝึกอธิบายและสาธิตให้ดูเสร็จ ก็ถึงเวลาลองทำจริง จับคู่บัดดี้เสร็จสับก็ลองทำดู(ฉันโดนจับคู่กับผู้ช่วยสอน เนื่องจากถูกเล็งเห็นแล้วว่ามีโอกาสอยู่ในภาวะวิกฤตได้ง่ายที่สุดแล้ว…) ตอนทำจริงก็ท่องไว้เลย “สติๆๆๆ” พร้อมให้กำลังใจตัวเอง “ต้องทำได้ ๆ” อ่ะ ๆ เริ่ม…
Step 1..2…3…4 ทำได้โว้ยยยย เย้ๆๆ ชิวๆ เลออออ(ภูมิใจอะไรนักหนาไม่รู้ แต่ตอนนั้นก็ภูมิใจแหละ 555)
เสร็จแล้วก็ถึงเวลาของการ พักค่ะ! พักกินข้าวก่อนเนาะ!! บ่ายสองละ หิวก็หิว หนาวก็หนาว จมูกก็ตัน เยอะค่ะ ลำไย–”
แยกย้ายกินข้าวกันตามระเบียบ ในส่วนของอาการจมูกตันพอขึ้นจากน้ำมาอาบแดดสักพักก็ดีขึ้น สามารถหายใจทางจมูกได้ปกติละ ร่างกายพร้อมละ ในส่วนของใจนั้น หนีกลับซะดีมะ!!
ตัดภาพมา เข้าสู่การเรียนภาคบ่ายกันต่อ…
บทเรียนที่ห้า
ฝึกการควบคุมภาวะลอยตัว (Buoyancy Control) เป็นสิ่งสําคัญมากอย่างหนึ่งของการดําน้ำ เพราะหากมีการควบคุมภาวะลอยตัวที่ดีแล้ว จะทําให้นักดําน้ำอยู่ในสภาวะที่ไร้น้ำหนัก เป็นอิสระ ง่ายต่อการเคลื่อนที่ ทําให้ประหยัดอากาศ และที่สําคัญคือเป็นการหลีกเลี่ยง ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพืชพรรณและสิ่งมีชีวิตใต้น้ำต่าง ๆ อีกด้วย ทีนี้สิ่งที่เป็นตัวช่วยทำให้เราสามารถควบคุมภาวะจม – ลอยของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นก็คือ ชูชีพดําน้ำ (BCD) และตะกั่วถ่วง (Weight) บวกกับการฝึกฝนการหายใจ(ที่จริง ๆ ก็ไม่ง่ายเท่าไหร่) อ้อ การฝึกนี้เป็นการฝึกในโซนน้ำลึก ต้องใช้สติควบคุมการหายใจตลอดเวลา บวกกับพลังกายและพลังใจ(เยอะหน่อย) ฝึกทั้งแบบนอนลอยตัวและนั่ง แอบลอยมากไปจนโผล่น้ำและจมมากไปจนติดพื้นอยู่นาน แต่ก็ผ่านมันไปได้นะคะ
บทเรียนสุดท้าย(ของวันนี้)คือการว่ายโดยควบคุมภาวะลอยตัวใต้น้ำ ก็จม ๆ ลอย ๆ พอถู ๆ ไถ ๆ กันไป คิดว่าเป็นทักษะที่ต้องใช้ฝึกฝนจนชินกับสภาวะใต้น้ำ เนื่องจากเราต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมทุกส่วนของร่างกายให้ได้
อาการจมูกตันหายไปละ ผ่านมาเกือบจบละ แต่ยังรู้สึกค้างคาใจกับการ Clear Mask อยู่ เลยอยากจะผ่านให้ได้ด้วย จริง ๆ ตอนนั้นรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ แล้วล่ะ แถมยังหนาวสั่นมากด้วย แต่ก็บอกตัวเองว่า เอาว่ะ! เหลืออันเดียวที่ยังไม่ผ่าน ต้องผ่านให้ได้! ก็เลยขอใหคุณครูช่วยดูให้ อ่ะ เริ่ม!
การ Clear Mask แบบ Half Mask
เปิดหน้ากากให้น้ำเข้านิดนึงก่อน เงยหน้าขึ้น หายใจเข้าทางปากก่อน แล้วแง้มหน้ากากด้านล่างให้น้ำออกพร้อมหายใจออก เท่านั้นแหละ… โอ้วโห่น้ำนี่เต็มหน้ากากเลยจ้าาาโอ๊ยยย!! ทำไมมันยากอย่างนี้ฟะ สำลักแล้วสำลักอีก กินน้ำจนจะหมดสระอยู่แล้วมั้ง เลิกซะดีมะ–”
คุณครูอธิบายว่าตอนเอาน้ำออกเราเปิดหน้ากากมากเกินไป เราหายใจออกไล่น้ำไปแล้วแต่ตอนปิดหน้ากาก เราดันเอาน้ำเข้าไปด้วย ก็แบบ โอเค ๆ เก็ทละ มา ๆ ลองอีกสักรอบ ยังไงวันนี้ต้องผ่านให้ได้!!
“ต้องทำได้ ต้องทำให้ได้”
อ่ะ เริ่ม!
เปิดหน้ากากให้น้ำเข้านิดนึงก่อน วิธีที่ถูกต้องคือ ให้เราหายใจเข้าทางปาก (แน่ละซิ่ หายใจเข้าทางจมูกได้ไง ใต้น้ำนะคะ) เงยหน้า จับหน้ากากด้านบนไว้ แล้วให้เราหายใจออกทางจมูก นี่ก็หายใจแรงเต็มที่เลย ปรี๊ดด! น้ำออกแล้ววว(ไม่รู้มีน้ำมงน้ำมูกออกมาด้วยมั้ย แต่ตอนนั้นไม่สนละ) แต่ยังไม่หมด ๆ ก็ทำแบบเดิมจนกว่าน้ำจะหมด เหยยยยผ่านละค่าาาา
สุดท้าย Clear Mask แบบ Full Mask อีก โอโห จะรอดมั้ยถามใจตัวเองดู…
เป็นการฝึกไว้ในกรณีที่เกิดเหตุการไม่คาดคิด อาจโดนเพื่อนกระแทกจนหน้ากากหลุดกระเด็นออกไปได้ สิ่งสำคัญที่ต้องมีมากที่สุดในกรณีนี้คือ “สติ” และวิธีการ Clear Mask อย่างถูกต้อง มาลองดูกัน…
“ต้องทำได้… ต้องทำให้ได้”
ถอดหน้ากากออก(เสมือนว่ามันปลิวจากหน้าเราไป แล้วเราไปตามเก็บมา) ที่สำคัญคืออย่าตื่นตระหนกจนลืมหายใจทางปากเด็ดขาด! ทำตามสเต็ป หายใจเข้าทางปากเงยหน้า จับหน้ากากด้านบนไว้ แล้วหายใจออกทางจมูก…
เฮ้ยยย รอดว่ะ! ใน ที่ สุด ก็ ผ่าน หมด แล้ว เว้ยยยยยยยยยยยย! กี๊สสสสส น้ำตาจิไหลค่ะ555
ผ่านวันแรกไปได้แบบทรหดมากแล้วก็ ไม่รู้ว่าคุณครูหรือนักเรียนที่เหนื่อยกว่ากัน555
อยากขอบคุณคุณครูและผู้ช่วยทุกคน เข้าใจว่าลำบากมาก ปกติก็เป็นคนเรียนรู้อะไรช้าอยู่ละ ขอบคุณมากนะค้า><
และที่สำคัญสุดๆ อยากขอบคุณตัวเอง ไม่รู้ว่าคนอื่นในคลาสจะมองว่าเราห่วยรึเปล่า แต่สำหรับตัวเราเอง ที่ผ่านมันไปได้เรารู้สึกว่า “เราก็เก่งเหมือนกันนะ”
ขอบคุณความกลัวที่ทำให้รู้ว่าเราก็กล้าได้มากขนาดนี้…
“โคตรภูมิใจเลยว่ะ” 🙂
อ่อ อยากขอบคุณเพื่อนหลายๆ คนที่บอก “มึงเก่งแล้ว” เอาจริงมันมีความหมายมากนะ ถึงเธอจะไม่รู้ก็ตาม ขอบคุณมากจริงๆ
สำหรับคนว่ายน้ำไม่เป็น เป็นภูมิแพ้ ขี้กลัว จิตใจก็อ่อนแอ่(เกี่ยวมั้ย?) บทเรียนของการดำน้ำ หรือการทำอะไรก็แล้วแต่ที่คุณคิดว่าคุณทำไม่ได้ มันมากกว่าการทำสิ่งนั้นได้ คือ การที่คุณชนะใจตัวเอง ถ้าผ่านมันไปได้เชื่อเหอะว่าคุณจะเก่ง(และแกร่งขึ้น) ไม่ได้หมายถึงแค่ในน้ำหรอกนะ ในโลกชีวิตจริงคุณจะมีพลังในการทำสิ่งอื่น ๆ ที่คุณกลัวมากขึ้นอีกเยอะ
บอกตัวเองว่า “แค่นี้หรอ ฉันทำได้อยู่ละ” แล้วทำมันซะ!
เราเชื่อจริง ๆ ว่า ถ้าคนอย่างเราทำได้ คุณก็ต้องทำได้ ลองดูนะคะ อยากให้คุณได้ลอง
เราอาจได้เจอกันที่ใต้ทะเลทริปหน้าก็ได้ ^^
****สุดท้าย ในท้ายสุด อยากขอบคุณครูพี่ต้อมมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกอยากจะใส่ซักล้านตัว
ที่อดทนมากๆ เข้าใจเรามากๆ ให้เวลา ค่อยเป็นค่อยไป ปลอบใจ หลายสิ่งมาก และทำให้ ดำน้ำจนได้ ขอบคุณมากนะค้า>< ****
สนใจติดต่อ Happy Dive
65/1 นาคนิวาส 21 (ลาดพร้าว 71), ลาดพร้าว กทม. 10230 ประเทศไทย
Email : [email protected]
Tel. 081-736-9736
Line ID: @happydive